Skip Content
ไทย / อังกฤษ

ขณะนี้คุณอยู่ที่ | หน้าแรก | วารสารปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๒ | บทความวิจัยเรื่องที่ ๕

วารสารวิทยาลัยราชสุดาเพื่อการวิจัยและพัฒนาคนพิการ
ววารสารปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๒ กรกฎาคม - ธันวาคม ๒๕๖๒

บทความวิจัย : สยุทธศาสตร์การดำรงชีพของครัวเรือนแม่หญิงพิการลาว หลังจากการฝึกอบรมวิชาชีพ
ในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ผู้วิจัย : ธนพฤกษ์ ชามะรัตน์1,ทวีศักดิ์ เพ็งทวี2

E-mail : 1thanacha@kku.ac.th

บทคัดย่อ

งานวิจัยเชิงคุณภาพนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษายุทธศาสตร์การดำรงชีพของครัวเรือนแม่หญิงพิการลาว หลังจากการฝึกอบรมวิชาชีพ ในนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีหน่วยวิเคราะห์ในระดับครัวเรือน เก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกร่วมกับการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 16 คน ที่เป็นแม่หญิงพิการทางร่างกายชาวลาวจากครัวเรือนในนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยทำการวิเคราะห์เนื้อหาผ่านกรอบการวิเคราะห์ตามแนวคิดการดำรงชีพอย่างยั่งยืน และตรวจสอบคุณภาพของข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีสามเส้า


ผลการศึกษาพบว่า ครัวเรือนแม่หญิงพิการลาวใช้สินทรัพย์ทุนของครัวเรือน ประกอบด้วย ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางกายภาพ และทุนทางการเงิน ในการกำหนดยุทธศาสตร์การดำรงชีพ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยุทธศาสตร์การลงทุน ได้แก่ การใช้ทุนมนุษย์ที่เป็นความรู้ติดตัวของตนเองมาจากการฝึกอบรมอาชีพ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตโดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ (2) ยุทธศาสตร์การดิ้นรนต่อสู้ ได้แก่ การใช้ทุนมนุษย์ในการต่อสู้ดิ้นรนเอาชนะข้อจำกัดของร่างกายเพื่อให้ได้มาซึ่งทักษะอาชีพ แล้วนำทักษะอาชีพและความรู้นั้นมาช่วยในการดำรงชีพต่อไป (3) ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหา ได้แก่ การใช้ทุนทางสังคมที่เป็นเครือข่ายหน่วยงานต่าง ๆ ที่คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้น และ (4) ยุทธศาสตร์ความยั่งยืน เป็นการบูรณาการยุทธศาสตร์ในการใช้ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนทางกายภาพ ทุนทางการเงิน เข้ามาช่วยเพื่อที่จะสร้างให้เกิดความมั่นคงในการดำรงชีพของครัวเรือนแม่หญิงพิการลาว


คำสำคัญ: ยุทธศาสตร์การดำรงชีพ , ครัวเรือนแม่หญิงพิการ , นครหลวงเวียงจันทน์


บทความวิจัยเรื่องที่ 5 :ดาวน์โหลดบทความวิจัยเรื่องที่ 5ภาพ icon เพื่อให้ทราบว่าเป็นไฟล์ PDF

menu-thai

* ความคิดเห็น ข้อมูล และบทสรุปต่าง ๆ ที่ตีพิมพ์ ในวารสารเป็นของผู้เขียนบทความ และมิได้แสดงว่า กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยราชสุดาและ คณะผู้จัดทำเห็นด้วยทั้งหมด