ขณะนี้คุณอยู่ที่ | หน้าแรก | วารสารปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๒ | บทความวิจัยเรื่องที่ ๖
วารสารวิทยาลัยราชสุดาเพื่อการวิจัยและพัฒนาคนพิการ
ววารสารปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๒ กรกฎาคม - ธันวาคม ๒๕๖๒
บทความวิจัย : ผลของดนตรีบำบัดที่มีต่อการฟื้นฟูการพูดในคนหูตึง วัยผู้ใหญ่ตอนต้น
ผู้วิจัย : วทัญญู จิตติเสถียรพร1,นัทธี เชียงชะนา2,อำไพ บูรณประพฤกษ์3
E-mail : link.9111991@gmail.com
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของดนตรีบำบัดที่มีต่อการฟื้นฟูการพูดในคนหูตึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โดยใช้วิธีวิจัยเชิงทดลองแบบการวัดซ้ำ ร่วมกับวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้เข้าร่วมการวิจัย คือ นักศึกษาที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ระดับปริญญาตรี วิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 9 คน โดยเข้าร่วมการทดลองกิจกรรมดนตรีบำบัดแบบกลุ่ม จำนวนทั้งหมด 10 ครั้ง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละหนึ่งชั่วโมง มีกิจกรรมดนตรีบำบัดดังต่อไปนี้ การฝึกโสตประสาทการได้ยิน การวอร์มเสียง และการร้องเพลง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลและวัดผล ประกอบไปด้วย คู่มือทดสอบการพูดของคนหูตึง แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ การวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ (Repeated-Measures ANOVA) สำหรับการเปรียบเทียบข้อมูลเชิงปริมาณ และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลแบบอุปนัยสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัย พบว่า ดนตรีบำบัดสามารถฟื้นฟูการพูดในคนหูตึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นได้ ถึงแม้ว่าค่าเฉลี่ยคะแนนการพูดในภาพรวมทั้งหมดจะไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 ก็ตาม ซึ่งหากสังเกตค่าเฉลี่ยคะแนนของทุกตัวชี้วัดในการทดสอบก่อน ระหว่าง และหลังการให้ดนตรีบำบัด จะพบว่ามีตัวชี้วัด 8 ตัว จากทั้งหมด 9 ตัวชี้วัด ที่มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นจากการทดสอบแต่ละครั้ง อีกทั้ง ค่าเฉลี่ยคะแนนหลังการให้กิจกรรมดนตรีบำบัดในทุกตัวชี้วัดมีค่าสูงกว่าก่อนการให้กิจกรรมดนตรีบำบัด ซึ่งเพิ่มขึ้นชัดเจนในตัวชี้วัดการเปล่งเสียงได้ชัดเจน และการเปล่งเสียงดัง-เบา ที่ต่างมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
คำสำคัญ: ดนตรีบำบัด, การพูด, คนหูตึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
บทความวิจัยเรื่องที่ 6 :ดาวน์โหลดบทความวิจัยเรื่องที่ 6
- หน้าแรก
- รายละเอียด
- คณะกรรมการวารสาร
- คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับ
- การส่งบทความ
- การพิจารณาตีพิมพ์
- เจ้าของ / ติดต่อ
- การสมัครสมาชิก
* ความคิดเห็น ข้อมูล และบทสรุปต่าง ๆ ที่ตีพิมพ์ ในวารสารเป็นของผู้เขียนบทความ และมิได้แสดงว่า กองบรรณาธิการวารสารวิทยาลัยราชสุดาและ คณะผู้จัดทำเห็นด้วยทั้งหมด